ออกงานคู่สยบเลิก! “ญาญ่า” เผย “ณเดชน์” ไม่ใช่ซูเปอร์ฮิวแมน ดูแลตลอดไม่ได้ แจงเหตุผลนิ้วนางไร้แหวน

 ออกงานคู่กันหลังเจอกระแสถูกจับตาว่ารักร้าวหรือเปล่า เหตุวันเกิดสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ก็ไร้เงา “ณเดชน์ คูกิมิยะ” อีกทั้งยังถูกจับสังเกตว่าญาญ่าไม่สวมแหวนที่ณเดชน์มอบให้วันขอวิวาห์ติดนิ้วเหมือนเคย ยิ่งในงานฟุตบอลช่อง 3 ณเดชน์ก็ได้เผยว่าเลื่อนแต่งออกไปไม่มีกำหนดอีก งานนี้ทำเอฟซีใจคอไม่ดีกันทั้งเมือง

ล่าสุดวันนี้ (30 มี.ค.) ณเดชน์-ญาญ่า ควงแขนออกอีเวนต์คู่ครั้งแรกหลังเจอกระแสรักร้าว ในงานฉลองเปิดศูนย์การค้า เซ็นทรัล นครปฐม ศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) งานนี้สยบทุกข่าวลือ เพราะยืนยันว่ารักยังหวานกันดี ณเดชน์ยกเป็นบทเรียน ให้สัมภาษณ์ทำคนรอบข้างตกใจ ส่วนญาญ่าเองก็เผยว่าณเดชน์ไมได้พูดผิดอะไร เข้าใจอีกฝ่าย พร้อมหยอดหวาน ณเดชน์เป็นอีกครึ่งชีวิต

ณเดชน์ : “หลังจากมีข่าวก็ได้คุย (หันหน้าไปมองหน้าญาญ่า) ได้คุยกันครับ ก็ไม่มีอะไร ผมก็ได้มีโอกาสพูดไปแล้ว”

ญาญ่า : “วันที่เขาขอโทษก็เห็นค่ะ เห็นพาดหัวข่าวแต่ว่าก็ไม่ได้ฟังทั้งหมด เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว (หันหน้าไปมองณเดชน์ แล้วยิ้มให้กัน)”

ณเดชน์ขอโทษต่อหน้า ญาญ่าโดดป้องก็ไม่ได้พูดผิดอะไร
ญาญ่า : “เอาจริงๆ มันไม่ได้ผิดค่ะ ก็ถูกของเขาค่ะ แล้วก็ไม่ได้มีงอนอะไรแน่นอนอยู่แล้ว ก็เลยแบบ โอเค เข้าใจได้ค่ะ”

ณเดชน์ : “เราก็รู้ว่ามันเป็นคำที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”

ญาญ่า : “จริงๆ คำมันทำให้คิดได้ไปไกล แต่ก็โอเค ก็ถูกของเขาค่ะ”

ณเดชน์ : “ขอโทษค้าบ (หันไปพูดกับญาญ่า พร้อมกับหัวเราะ)”

ญาญ่า : “โอเค”

ณเดชน์ : “ตอนเป็นข่าวก็ตกใจครับ ตกใจเหมือนกัน แต่ก็มีโอกาสได้คุยกันแล้ว”

ญาญ่า : “โอเค ญ่าโอเคค่ะ เพราะว่าเรารู้ว่าการต้องการในการสื่อของพี่แบร์ไม่ได้ตรงตามที่เขาพูด ก็เลยเข้าใจ (หันไปมองหน้าณเดชน์แล้วยิ้ม)”

เผยถูกเตือนให้ระวังคำพูด ยกเป็นบทเรียน
ณเดชน์ : “แฟนๆ แม่ๆ ก็คงมีตกใจแหละครับ เขาก็บอกว่าทีหลังให้ระวังคำพูด จริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น แต่ก็เข้าใจได้ว่าเราไม่เคลียร์ให้มันชัดเจนเอง ให้เป็นบทเรียนไว้ เอาไว้แก้ไขทีหลัง ก็เดี๋ยวถ้ารู้ว่าวันไหนเดี๋ยวบอก ไม่ต้องห่วงครับผม“

เขินณเดชน์ยกต้องเป็นแม่ของลูก
ญาญ่า : “(หัวเราะเขิน) น่ารัก จริงๆ แอบสงสารพี่แบร์นิดนึงรู้สึกเหมือนโดนรุมนิดหน่อย แต่ว่าเราคุยกันแล้ว ญ่าโอเค”

ณเดชน์ : “ก่อนหน้านี้อาจถูกจับตาเพราะงานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา อาจจะเป็นเรื่องนั้นด้วย จริงๆ แล้วคนอาจจะไม่เห็นเราในช่องทางสื่อด้วยกันบ่อย เพราะผมมีงานค่อนข้างเยอะ และไปต่างจังหวัดบ่อย เวลาจะไปทำอะไรกับเขามันก็น้อยลง คนอาจจะคิดว่าอย่างโน้นอย่างนั้น อย่างนี้หรือเปล่า”

ญาญ่า : “ตอนนี้ญ่ามีแค่โปรเจกต์เดียว แต่ปีที่แล้วมีละคร 5 ตัว ตอนนี้ก็เป็นพี่แบร์ที่ต้องรับหลายเรื่องพร้อมกัน ญ่าค่อนข้างชิลค่ะ ก็เลยคอยเป็นกำลังใจให้ คอยซัปพอร์ตแน่นอนเพราะว่าเหนื่อย ก็ซัปพอร์ตเท่าที่จะทำได้ อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์หลายๆ ครั้ง ความสัมพันธ์ของเรามันเกินสิ่งที่เราเป็นมาก เป็นทั้งที่ปรึกษา ก็ช่วยเท่าที่จะทำได้”
 
เชือณเดชน์ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ไม่ใช่ซูเปอร์ฮิวแมน ดูแลทุกคนได้ตลอดเวลา
ณเดชน์ : “เรื่องน้อยใจ ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีเลย (หัวเราะ)”

ญาญ่า : “โนๆ เอาจริงๆ ถ้าเราถอยความรู้สึกเราออกมา แล้วลองเข้าไปอยู่ในตัวเขา ญ่าเชื่อว่าเขาทำดีที่สุดแล้วเท่าที่เขาจะทำได้ เพราะว่ามนุษย์ก็เป็นมนุษย์ ไม่ได้เป็นซูเปอร์ฮิวแมนที่จะสามารถดูแลทุกคนได้ตลอดเวลา ซึ่งญาญ่าเข้าใจมากๆ ใครที่ทำงานเยอะ คนที่อยู่ข้างๆ คนทำงานหนักมากอย่าลืมซัปพอร์ตเขาด้วย เพราะว่าหัวสมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว”

ณเดชน์ : “ฟังแล้วชื่นใจครับ เขาก็บอกเสมอเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาก็บอกว่าภูมิใจนะ จะขอซัปพอร์ตตลอดเวลา เขารู้ว่าเราเหนื่อยมากๆ เขาก็ผ่านจุดนี้มาแล้ว”
 
หมั่นดูแลเอาใจใส่ ไม่ให้รู้สึกเหมือนของตาย ฝ่ายหญิงลั่นครึ่งชีวิตของญ่าคือณเดชน์
ณเดชน์ : “ก็ต้องหมั่นเอาใจ ดูแลความรู้สึกกัน มีอะไรก็พูดคุยกัน คือผมคิดว่าการที่เราคุยกัน หรือว่าทะเลาะกัน ทุกคู่มีปัญหาหมดแหละ แต่การเคลียร์กันแบบเพื่อนมันเป็นสิ่งที่ทำให้การลดทิฐิของตัวเราออกไป เราพยามยามที่จะปรับจูนให้เราเข้าใจกันทุกอย่าง ในเหตุผลของแต่ละคน ซึ่งเราผ่านการจูนไม่บ่อยนะครับ”

ญาญ่า : “ง่ายๆ ครึ่งชีวิตของญ่าคือณเดชน์แล้ว ก็เลยแบบหลายๆ ครั้งเราค่อนข้างอยู่ใกล้กัน ไม่ต้องปรับอะไรหรอก”

ญาญ่า : ”แค่หายใจข้างๆ กันก็รู้ใจกันหมดแล้ว ว่าอารมณ์ประมาณไหน ถามว่าทำยังไงไม่ให้เป็นของตาย เขาน่ะเหรอ (ชี้ไปหาณเดชน์ แล้วทำท่าคิด)”
 
ณเดชน์ : “ผมว่าเราไม่มีปัญหากันตรงนี้ การรู้สึกว่าใครเป็นของตายถ้าเรายังเข้าใจกันเรายังรู้ว่าต่างฝ่ายต่างต้องการอะไร มันไม่มีคำว่าของตายแน่นอน”

ญาญ่า : “สำหรับญ่า สิ่งที่สำคัญที่สุดเราเป็นทีมเวิร์ก ถ้าเรายังจำได้ว่าเราคือทีม มันก็ไม่สามารถคิดได้เลยว่าเขาคือของตายของเรา เราจะคิดเสมอว่าพาร์ตเนอร์ของเราเป็นยังไงบ้าง ทีมเวิร์ก”

เลื่อนแต่งไม่ใช่ไม่สำคัญ
ณเดชน์ : “เราเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้วว่าคาดว่าน่าจะเป็นปีหน้า แต่ว่าทุกอย่างก็ถูกเลื่อนไปตอนนี้เรามีงานเข้ามาแน่นมากๆ ก็เลยถูกผัดวันไป ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญนะครับ เราก็คุยกันว่าเรามีงาน ถูกถามก็ไม่กดดันครับ เพราะว่าสุดท้ายมันก็เป็นเรา 2 คนที่จะเลือกเมื่อไหร่ ยังไง เข้าใจครับ เพราะเราก็ขอเขามาแล้ว ต่อไปคำถามของพี่นักข่าวก็คือจะแต่งเมื่อไหร่ จะมีลูกเมื่อไหร่ มันเป็นสเต็ปไป”

ปีหน้ามีวันก็แต่งแน่ คืบห้าจะบอก
ญาญ่า : “ถ้ามีวัน มีอะไรคืบหน้าจะบอก”

เผยสาเหตุไม่ใส่แหวนเพราะต้องทำงาน
ญาญ่า : “มันยากมากเลยเพราะว่าต้องทำงาน (ทำหน้าเศร้า)”

ณเดชน์ : “อย่างนี้เวลาคนเดินจับมือก็ (กลัวโดนดึง?)”
ญาญ่า : “ไม่อยากติดนิสัยแบบนี้ (ทำท่ายืดกอดอก)”

ณเดชน์ : “เพราะขนาดตอนอยู่ต่างประเทศเขายังหมุนกลับ กำมือไว้ตลอดเวลาเพราะกังวล (ต้องซื้อวงเล็กๆ ให้อีกสัก 5 วง?) ครับๆ เราไม่ได้มายด์เรื่องแหวน พอเขาไม่ใส่ เราก็คุยกันว่าเราไม่ใส่แล้วกัน เดี๋ยวจะเป็นดรามาอะไรอีก ก็เอาง่ายๆสบายๆ เราก็ทำงานเยอะ จะเก็บไว้ที่ไหนมันก็กังวลเหมือนกันนะครับ ฝากถึงทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ตอนนี้ก็อย่าลืมดูละครจนกว่าเราจะได้รักกัน และเดี่ยวมีหนังอีก”

ญาญ่า : “ญ่าซัปอร์ตพี่แบร์นะคะ (หันไปมองหน้าแล้วยิ้มหวานให้) ไม่ต้องห่วง เราซัปพอร์ตซึ่งกันและกันตลอดค่ะ (หัวเราะ)”

ณเดชน์ : “ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้เราสองคน ก็ดูละคร ดูผลงานของเรา แล้วก็มาเจอพวกเราที่งานอีเวนต์ได้ครับผม”