“เจนนี่” น้ำตาคลอ นาทีเสียเงิน 5 ล้านล้มทั้งยืน! ผัวอุ้มลูกร้องไห้ ลั่นที่ผ่านมาหมดหลาย 10 ล้าน! จากนี้ไม่จ่ายสักบาท

“เจนนี่ ได้หมดฯ” น้ำตาคลอ เล่าปมเงิน 5 ล้าน ถูกคนใกล้ตัวบุกรีดไถถึงเตียง ผัวอุ้มลูกร้องไห้ ลั่นมาเพื่อประกาศ ที่ผ่านมาหมดหลาย 10 ล้าน หลังจากนี้ไม่จ่ายสักบาทเดียว ใครอยากทวงหนี้ให้ไปออกรายการโหนกระแส ขอโทษผัวทุกวันทำให้ดิ่ง ไม่มีความสุข กอดคอร้องไห้ ยันยังรัก “ลิลลี่”

หลังจากที่ตกเป็นประเด็นดรามา กับกรณีเงิน 5 ล้านที่ถูกคนใกล้ตัวบุกรีดไถถึงเตียง จนทำเอากอดคอร้องไห้กับสามี “ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว” ล่าสุด “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” ได้ออกมาเปิดใจในรายการแฉเป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวเผยมาเพื่อประกาศว่าหลังจากนี้จะไม่จ่ายให้ใครแม้แต่บาทเดียว ที่ผ่านมาจ่ายหนี้ให้ไปแล้ว 10 ล้าน

“นักข่าวโทร.ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ หนูไม่ไปงานมิสแกรนด์ฯ ไม่ยอมเจอสื่อ จะขอพูดที่นี่ที่เดียวและกับพี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) เท่านั้น ไม่ต่อแล้ว ยิ่งพูดยิ่งเจ็บช้ำกันทุกฝ่าย

เรื่องน้องสาวแยกวง เป็นความต้องการของลิลลี่นั่นแหละ มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องลองแยกกันออกไปเพื่อเติบโต เจนนี่กับลิลลี่เวลาไปออกคอนเสิร์ตมีดรามาตลอด พี่ร้องเพลงน้อง น้องร้องน้อยกว่าพี่ พี่ร้องน้อยกว่าน้อง แล้วน้องก็ไม่โตสักที วันนี้น้อง 20 ปีแล้ว ก็ให้เขาไปเดินเองสักปี ถ้าปีนี้ทั้งปีดูแล้วมีงานน้อย ปีหน้าก็อาจจะกลับมาร่วมกัน เวลาลิลลี่ไปเดี่ยวคนก็ต้องคิดถึงเจนนี่อยู่แล้ว เพราะเรารับงานคู่เอาไว้ เขาอยากเห็นภาพนี้นานๆ หนูก็ใจหาย อย่างงานล่าสุดหันไปมองหน้าน้องก็ร้องไห้เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วทุกคนต้องเติบโต”

แจงเรื่องตัดพ้อเงิน 5 ล้านหายวับ ร้องไห้แทบเป็นบ้า เป็นปัญหาภายในครอบครัว
“เรื่องโพสต์ตัดพ้อ หนูไม่ได้บอกว่า 5 ล้าน หนูบอกว่าเงินไม่ได้หาง่าย ใครที่อยากได้เงินคนอื่นแล้วเขาไม่เต็มใจจะให้ มันจะเป็นบาปกรรม เงิน 5 ล้านมันก็มีปัญหาภายในครอบครัว แต่โอเค หนูอาจผิดที่ใจร้อน แต่ความอดทนคนเราถึงขีดจำกัดบางเวลา ตอนนั้นเป็นเวลาเช้าแล้วเรานอยด์ เราเหนื่อย เงินที่หาได้อยู่ดีๆ หมดไปกับมือ เราหยิบเองกับมือ มันเจ็บใจมากตอนนั้น ร้องไห้จนแทบเป็นบ้า จากหนูเป็นคนสดใสกล้าทำทุกอย่าง ตอนนี้หนูเป็นแพนิค หนูกลัวไปหมดทุกอย่าง ยิวซึ่งเป็นสามีเห็นเราร้องเกือบเป็นเกือบตาย เขาก็ใจร้อนไปโพสต์อีก แต่ใดๆ ก็ว่าเขาไม่ได้เพราะเขาปกป้องเรา มันเลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
 
เราก็ยอมรับว่ามันเกิดจากที่เราโพสต์นี่แหละค่ะ เราก็ขอโทษสำหรับคนที่ไม่โอเคด้วย แต่ถ้าไม่เป็นเรา ณ วันนั้นก็ไม่เข้าใจจริงๆ หนูหมดแรง หนูล้มทั้งยืน หนูร้องไห้ น้ำตาจะเป็นสายเลือดแล้ว แล้วโดนมาตลอด มันก็ทนไม่ไหว วันนั้นที่โพสต์ก็คืออยากสื่อสารกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ญาติหนูคนไหนก็แล้วแต่ ว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่จ่ายให้ใครแล้ว เจ้าหนี้ไม่ได้มา แต่ที่พี่ๆ ไม่เห็นก็มีเยอะค่ะ มีทั้งแชต ทั้งมาหา ก็มีอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้มาจากบุคคลคนเดียวนะคะ มาจากหลายบุคคลรอบตัวเรา เราไม่อยากเจาะจง เพราะสุดท้ายครอบครัวก็สำคัญ แต่มันไม่ไหวแล้ว โพสต์นี้อยากประกาศกับโลก ต่อไปถ้าใครบุกมาถ่ายคลิปทวงหนี้ฉัน ถ้าฉันไม่จ่ายก็อย่ามาด่าฉันนะ ฉันเคยโดนด่าเรื่องนี้ไปแล้วตอนเป็นไวรัล แล้วหนูเพิ่งทะเลาะกับสามีเรื่องหนูทำงานหนักจนเกินไปจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวเพื่อหาเงิน แล้วเงินที่หามา มันไม่มีแล้ว

เงินเก็บก็มี แต่ 5 ล้านนึกออกไหมคะ คนบางคนทั้งชีวิตก็หาไม่ได้นะคะ มันไม่ได้เจอครั้งนี้ครั้งแรก มันเจอมาตลอด เจอทีเป็นก้อนๆ ก็หลายรอบค่ะ แต่มีผลต่อจิตใจเราเรื่อยๆ เหมือนคนในครอบครัวไม่ได้บังคับเราหรอก แต่เราเห็นเขาร้องไห้ทุกวัน เขาไม่มีความสุข กับเราที่นอนบ้านหลังใหญ่ สบาย บางทีก็อยากช่วย แต่พอช่วย บางทีข้อตกลงที่มีให้กันมันไม่จบ หนูคิดแล้วว่าชีวิตหนูดรามาใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นคือเรื่องนี้ แล้ววันนี้มันก็มาถึง วันนี้หนูอาจบอกทุกคนว่าหนูไม่พูดแล้วก็ได้ อยากให้มันจบ ก็อยากบอกว่าให้มันจบที่หนูเลยดีกว่า”

ที่ผ่านมายอมจ่ายหลาย 10 ล้าน เพราะไม่อยากให้เจ้าหนี้มาพรากคนในครอบครัว แต่ต่อจากนี้ไม่มีอีกแล้ว
“เราไม่ได้คุยกันในครอบครัว นี่คือสิ่งที่หนูร้องไห้ตอนที่ไลฟ์วันนั้น เพราะหนูรู้สึกขาดความอบอุ่นอีกแล้ว หนูไม่รู้ว่าเขามองว่าเป็นหน้าที่ของหนูที่ต้องช่วยซัปพอร์ตไหม แต่พอมันเกิดทุกครั้งก็เป็นเราทุกครั้ง เราต้องรับผิดชอบทุกครั้งก็เลยคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ขอให้หลังจากนี้ช่วยให้พวกเรากลับมามีสภาพจิตใจที่เหมือนเดิมสักทีเถอะ แต่เชื่อไหมคะ ตอนแรกก็รู้สึกแย่นะที่เกิดแบบนี้ แต่อีกข้อก็รู้สึกว่าก็ดีกว่าให้เจ้าหนี้มาพรากคนในครอบครัวเราไป ไม่ว่าจะเป็นการฆ่า เรียกค่าไถ่ มันมีโอกาสสูงมาก เพราะยอดเงินไม่ใช่หลักหมื่นหลักแสน มันหลายล้าน เราก็เลยคิดว่าให้จบที่ตรงนี้เลย ใช้หนี้ไปรวมๆ แล้วถามว่าเท่าไหร่ มันก็หลายสิบล้านค่ะ จะร้องอีกแล้ว เดี๋ยวคนก็บอกว่าบีบน้ำตาอีก หลังจากนี้ต่อให้มาก็ไม่มีแล้ว”

มาเพื่อประกาศจุดยืน 5 ล้านคือเงินก้อนสุดท้าย จากนี้ไม่จ่าย ไม่รับผิดชอบใครอีกแล้ว หากมีคนทวงหนี้ไปเจอกันที่โหนกระแส
“ที่มาออกรายการเพราะอยากประกาศว่านั่นคือ 5 ล้านสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้จะไม่จ่ายแล้ว คือมีประเภทที่เขารู้ว่าเจนนี่มี ทำยังไงก็ได้กับคนในครอบครัวเพื่อให้เจนนี่รับผิดชอบเสมอ วันนี้ก็เลยมาแสดงจุดยืนว่าหลังจากนี้ทุกบาทจะให้น้องยูจิน ลูกสาวฉันแล้ว กับแบ่งให้น้องลิลลี่นิดหน่อย

วันนี้ที่มารายการแฉอย่างเดียวคือต้องการประกาศว่าไม่ว่าใครก็จะไม่รับผิดชอบอีกแล้ว และขอความร่วมมือทุกคน ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ หลังจากนี้ไม่ต้องการมีปัญหาเรื่องการเงินกับใครแล้วทั้งนั้น ขอทำงานแบบสบายใจ ถ้าวันนี้มีคนมาทวงหนี้อีก ไปเจอกันที่โหนกระแส (หัวเราะ) บอกมาเลยว่าค่าอะไร ที่ผ่านมายอมจ่ายเพราะรักทุกคน อยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ที่ออกมาวันนี้เพราะไม่อยากทำร้ายใคร พูดเสมอว่าเป็นความรู้สึก ณ วันนั้นที่ทนไม่ไหวจริงๆ สุดท้ายก็กลับมาร้องไห้รู้สึกผิด ที่ทำคนรอบข้างโดนด่า ก็รู้สึกแย่พอสมควร แต่ในเมื่อมันเกิดไปแล้ว ข้อดีเยอะกว่าข้อเสียแหละ อย่างน้อยเราอาจได้ชีวิตใหม่ให้กับใครคนหนึ่งของเรากลับคืนมา ก็คิดว่าไม่เป็นไร ถ้าเกิดขึ้นก็เดี๋ยวจะผ่านไปค่ะ ดรามาผ่านมาทุกครั้ง ก็มีคอมเมนต์สองฝั่ง ทุกวันนี้หนูเสียใจนะ แต่ก็รับมือได้มากขึ้นมากกว่า เสียใจแต่บอกตรงๆ ไม่มีใครอยากโดนด่าไปตลอด ณ วันนี้ความสดใสแตกต่างกันมากเลย กับวันนั้นที่เข้าวงการแล้วมีพลังเต็มร้อย”

ก็ไม่อยากให้ทัวร์ไปลงครอบครัวแล้ว หนูเข้าใจว่าทุกคนอาจพูดว่าเธอเป็นคนเริ่ม หนูขอโทษแล้วกันที่อดทนไม่ไหว ใครไม่เจอจะไม่รู้ มันมีผลต่อสภาพจิตใจและการทำงาน ครอบครัววันนึงก็ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมแน่นอน มันตัดกันไม่ขาด แต่ก็ยืนยันว่าหนูรักลิลลี่ และลิลลี่ก็รักหนู ต่อให้มีงอนๆ กันบ้าง นอยด์กันบ้าง แต่สุดท้ายเราไม่มีวันทิ้งกัน ณ วันนี้ขอประกาศว่าหลังจากนี้ขอทำเพื่อลูกดีกว่า เพราะยูจินยังมีอนาคตสดใส เราไม่อยากให้เขากลับไปจนเหมือนเรา หนูไม่รู้จะหาโอกาสหาเงินได้เป็นล้านๆ แบบนี้อีกหรือเปล่า เราขอเซฟไว้เพื่ออนาคตดีกว่า วันนึงหนูเจ็บไข้ไม่สบายก็หาคนดูแลลำบากเหมือนกันนะคะ ก็ต้องเก็บไว้ใช้ ณ ตรงนั้นด้วย”

อย่าตัดสิน “ยิว” แค่อยากปกป้องเมีย
“ส่วนที่มองว่าตั้งแต่มีผัว ไม่เหมือนเดิม ติดสามี ก็ตามนั้น คนๆ เดียว วันนึงมาใช้ชีวิตร่วมกับอีกคน แล้วร้องไห้ให้เขาเห็น ระบายความทุกข์ทุกอย่างกับเขา พอถึงวันนึงจะไม่ฟังเขาเลยเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้ติดใครคนใดคนหนึ่ง หนูรักทุกคน เอาเป็นว่าอย่าตัดสินว่าใครเป็นใครดีกว่า ให้ตัดสินเรื่องความถูกต้องดีกว่า ว่าใครทำถูกทำผิด เรื่องเปย์สามี ถ้าติดตามเราจะรู้ว่าเราทำงานกันหนักมากจริงๆ ไลฟ์กันตลอด ยิวก็ไลฟ์ เขาก็ทำงานตลอด แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกคนเขามองว่าเจนนี่มีเยอะกว่า เจนนี่ก็ต้องเปย์ ก็แล้วแต่คนจะมองได้เลยค่ะ

สิ่งที่เปลี่ยนไปถามว่าเป็นเพราะมีสามีเกี่ยวไหม เกี่ยวอยู่แล้วค่ะ พอเรารู้จักยิว ก็รู้จักโลกอีกมุมนึง โลกที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนได้รู้จักทัศนคติที่ไม่เหมือนเราเลย มันก็ได้แลกเปลี่ยนกัน แต่หนูไม่ได้โง่ถึงขั้นงมงาย ผู้ชายสั่งให้ทำอะไรก็ไป ไม่ใช่ เพราะหนูเองมาถึงจุดนี้ได้ เราก็มีความสามารถระดับหนึ่ง แต่พอมาถึงจุดที่มีปัญหาครอบครัว แล้วเราต้องปรึกษาเขา ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าแบบไหนดีกว่า อันนี้ควรฟังไหม หรืออย่างเขาโพสต์ไปหนูก็พูดนะว่าที่รักหลังจากนี้พอแล้วนะ เขาขอโทษที่ทำให้ตัวเองต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่มันดูไม่ดีไปแล้ว”

นาทีเสียเงิน 5 ล้าน ผัวอุ้มลูกร้องไห้ ขอโทษทุกวัน ตั้งแต่คบกันทำให้ดิ่ง
“เขาก็เห็นหนูร้องไห้หนัก เขาอุ้มลูกอยู่ ก็ร้องไห้ไปด้วย หนูก็ขอบคุณเขามากกว่า ที่ผ่านมาเขาก็ดิ่งเหมือนกัน หนูก็ขอโทษเขาทุกวัน จากชีวิตผู้ชายคนนึงที่ค่อนข้างสดใส เจอดรามาทุกวัน เจอเรื่องท็อกซิกทุกวัน ความสดใสช่วงนึงของเขาหายไป แล้วอย่างที่เราไลฟ์ทะเลาะกันก็เป็นเหตุการณ์จริง หนูไม่มีเวลาให้เขาเลย หนูทำงานแทบเป็นแทบตายเพราะหนูต้องการหาเงิน บางครั้งหนูเสียเงินไปหนูไม่ได้บอกสามีด้วยซ้ำ แต่บังเอิญครั้งนี้เกิดขึ้นต่อหน้าเขาพอดี 

เรานอนกันอยู่ หนูเดินมาหยิบตังค์ เขาตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงหนูร้องไห้ ตู้เซฟอยู่ใกล้เราด้วยแหละ เขาก็เห็น เขาก็อุ้มลูกมาอีก เขาก็ไม่ไหว เขาหันไปมองยูจินเขาก็ร้อง หนูก็ร้องเขาบอกว่ามันไม่มีทางจบสิ้น เขาก็หลุดไปเลย หนูตอนนั้นอะไรจะเกิดก็เกิด อยากโพสต์อะไรก็โพสต์ เพราะตอนนั้นหนูนอนลงกับพื้นแล้ว หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ เงินก็ไปแล้ว ที่หนูจ่ายคือหนูต้องการซื้อความสุขให้เขากลับมา ถ้าหนูไม่กตัญญู หนูไม่ทำ ทำไมทุกคนไม่มองว่าทำไมหนูถึงยอมจ่าย เขาไม่มีสิทธิ์มาทวงเงินหนูเลยด้วยซ้ำ เพราะหนูไม่ได้เป็นคนไปเซ็น หนูไม่ได้เป็นคนไปยืม หนูไม่ได้รู้จักเขาเลย”