32.4 C
Bangkok
Monday, April 29, 2024
หน้าแรกNewsรวบ "ครูเปรม" อนาจาร ปล่อยคลิปลับลูกศิษย์ เหยื่ออื้อ สอนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ร.ร.

รวบ "ครูเปรม" อนาจาร ปล่อยคลิปลับลูกศิษย์ เหยื่ออื้อ สอนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ร.ร.

ตำรวจสืบนครบาล บุกรวบ “ครูเปรม” อนาจาร ปล่อยคลิปลับลูกศิษย์ลงโซเชียล ทำสาววัย 16 เครียดจัดเกือบคิดสั้น ตรวจสอบมือถือและคอมพิวเตอร์ พบคลิปมีเซ็กซ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิว แชตสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย เคยผ่านการสอนในโรงเรียนมัธยมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 โรงเรียน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น.  

ร่วมกันจับกุมนายวัชรวิทย์ สูงนารถ หรือเปรม อายุ 28 ปี ชาวขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.173/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67 ข้อหา พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ มีลักษณะอันลามกจับกุมได้ที่ห้องพักครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากมีเด็กสาวก้มกราบเท้าผู้เป็นแม่ เพื่อขอ “ฆ่าตัวตาย” เรื่องราวสุดแสนหดหู่ใจเกิดขึ้นในครอบครัวเล็กๆ ในย่านฝั่งธนบุรี เมื่อบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวต้องเจอกับอาชญากรผู้ใคร่เด็กในคราบ “ครูฝึกสอน” กระทำจนผู้เสียหายตายทั้งเป็น 

โดยเมื่อปี 65 ผู้เสียหายอายุ 16 ปี เข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนหญิงล้วนย่านภาษีเจริญ พบกับนายวัชรวิทย์ หรือ “ครูเปรม” หนุ่มร่างสูงหล่อหน้าตาดีวัย 25 ปี จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน เป็นครูฝึกสอนในโรงเรียน คารมดี แต่ภายในคือจิตใจที่ “ใคร่เด็กสาว” มักพุ่งเป้าไปที่เด็กสาวที่หัวอ่อนและล่อลวงง่าย และชอบเดินผ่านห้องเรียนของผู้เสียหายทุกวันและแอบมองผู้เสียหายทุกกิจกรรมในโรงเรียน ก่อนจะอาศัยความเป็นครู ตีสนิท ตกลง “เป็นแฟน” กัน ฉวยโอกาสที่ผู้เสียหายยอมทุกอย่าง “ถ่ายคลิปลับ” หลอกเด็กสาวผู้เสียหาย ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน และเวลาก็ผ่านไปครูเปรมหลบหนีการเกณฑ์ทหารด้วยการบินไปอยู่ประเทศเยอรมัน เป็นเวลากว่า 9 เดือน ด้วยระยะทางที่ไกลกัน และทั้งสองตกลงเลิกกันในที่สุด ผ่านไปจนกระทั่งปลายปี 66 เมื่อผู้เสียหายเข้ามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 และพบกับความรักครั้งใหม่ เธอโพสต์ภาพคู่รักใน IG (อินสตาแกรม) จากนั้นไม่นาน เมื่อจู่ๆ IG ของผู้เสียหายมีคนติดตามเพิ่มขึ้นมาจำนวนมาก อย่างไม่มีเหตุผล จนมีพลเมืองดีได้ทักไปบอกกับผู้เสียหายว่า “คลิปลับ” ของผู้เสียหายได้หลุดในโลกอินเทอร์เน็ต และเมื่อพลเมืองดีดังกล่าวเปิดวาร์ปให้ผู้เสียหายเข้าไปดูคลิป ก็พบว่าเป็นคลิปลับระหว่างผู้เสียหายกับครูหนุ่ม สมัยที่ผู้เสียหายอยู่ ม.4 และที่เลวร้ายมาก คือการโพสต์ชื่อ IG ของผู้เสียหายไว้ในคลิปนั้น หลังจากนั้นมีเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเริ่มทักหาเผู้เสียหายในเรื่องนี้ ทำให้ซึมเศร้าไม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แม่เห็นผิดปกติสอบถามทราบเหตุร้ายที่เกิดขึ้น 

หลังจากที่ผู้เสียหายเลิกกับครูรายนั้นแล้ว ครูยังคอยทักมาหาพยายามโน้มน้าวให้กลับไปพลอดรักกันเหมือนเดิม ซ้ำยังเข้ามาแอบส่อง IG ส่วนสาเหตุปล่อยคลิปนั้น คือ ภาพคู่กับแฟนใหม่ใน IG ทำให้โกรธ 

ต่อมามีการคลิปลับครั้งที่ 2 ในเว็บไซต์ใหญ่มีผู้เข้าชมจำนวนมาก เข้าแจ้งความที่ สน.แสมดำ หลังจากนั้นมีการออกหมายจับ แต่ครูหื่นรายนี้ไม่หยุด ปล่อยคลิปลับครั้งที่ 3 เข้าไปในโลกโซเชียลของสถาบันที่ผู้เสียหายศึกษาอยู่ ทำให้ผู้เสียหายต้องการลาออกจากมหาวิทยาลัย และอยากตาย ก่อนแม่และลูกสาวเข้ามาเข้าขอความช่วยเหลือมาที่ “สืบนครบาล” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งชุดสืบสวนติดตามทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ครูรายนี้เคยมีพฤติกรรมทำกับเด็กนักเรียนหญิงในลักษณะนี้มาแล้ว ถึงขั้นถูกไล่ออกจากการเป็นครูฝึกสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพญาไท และคนร้ายกำลังคบหากับ “เด็กสาว” รายใหม่ ซึ่งยังมีอายุน้อยและคนร้ายเพิ่งจะเข้าบรรจุเป็นครูอัตราจ้างอยู่ในโรงเรียนชื่อดังย่านหาดสมิหลา จ.สงขลา นำกำลังบุกจับได้ในที่ห้องพักครูภายในโรงเรียน 

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ พบคลิปการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนไม่ต่ำกว่า 15 คลิป และมีภาพวาบหวิวที่นักเรียนส่งมาให้อีกไม่ต่ำกว่า 10 ราย และยังพบแชตสนทนาคุยสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กนักเรียนอีกหลายราย 

นายวัชรวิทย์ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าทำการพรากเด็กไปมีเพศสัมพันธ์และถ่ายคลิปไว้จริง แต่ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ปล่อยคลิปดังกล่าว โดยตนจบปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน ตนมีรสนิยมหรือสเปก ชอบ หญิงสาวผมยาว สวมใส่แว่นตา โดยเฉพาะเด็กสาวที่สวมเครื่องแบบนักเรียนมัธยม หรือชุดนักศึกษา และสวมใส่แว่นตา และในส่วนรสนิยมการมีสัมพันธ์กับน้องผู้เสียหายนั้น ยอมรับว่าตนมีรสนิยมทางเพศที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง คือ ชอบให้ตนเองผูกมัดมือ มัดเท้า ในลักษณะ “ขึงพืด” และเอาผ้าปิดตา สวมใส่เครื่องแบบนักเรียน ตนชอบมักจะนำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปวิดีโอลับ เป็นคลิปสั้นๆ จำนวนหลายคลิป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและเป็นความชอบส่วนตัว 

ส่วนเรื่องคลิปหลุด ตนรับว่าได้ถ่ายคลิปไว้จริง โดยบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเครื่องส่วนตัวและเก็บไว้ดูเอง และบันทึกลงในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้บันทึกลงในฐานข้อมูลออนไลน์แต่อย่างใด น่าจะเป็นตอนที่ตนเองนำโทรศัพท์ไปซ่อมตอนอยู่ประเทศเยอรมัน ส่วนที่มีการแปะ IG ผู้เสียหายนั้น ตนเองขอไม่ตอบ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการสืบสวน คนร้ายรายนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง สภาพภายนอกดูดี มีโปรไฟล์จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยระดับสูง แต่โดยลึกในจิตใจมีลักษณะใคร่เด็ก หรือ pedophilia (การมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก) ที่เด่นชัดในคดีนี้ คือพยายามที่จะกระทำกับเด็กซ้ำๆ และจากการสืบสวนพบพยานหลักฐานบรรดาเหล่านักเรียนที่เคยเป็นลูกศิษย์ของคนร้ายหลายราย เข้าข่ายถูกกระทำในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยคนร้ายเคยผ่านการสอนในโรงเรียนมัธยมมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 โรงเรียน เชื่อได้ว่ายังมีผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย   

“สืบนครบาลขอเป็นกำลังใจให้กับน้องผู้เสียหายทุกคน และหากคนร้ายในคราบครูคนนี้ก่อเหตุอื่นอีก ขอให้แจ้งผู้ปกครองหรือบุคคลที่ไว้ใจติดต่อ พวกพี่ที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” พี่ๆ พร้อมจะคืนความเป็นธรรมให้กับน้องๆ ทุกคน ขอให้เข้มแข็ง โดยมีความกล้านำตัวคนร้ายลงโทษให้ถึงที่สุด พวกพี่สืบนครบาล จะทำลายคลิปลับทั้งหมดให้สิ้น สุดท้ายพวกพี่ ขอเป็นกำลังใจให้ น้องๆ ทุกคน ครับ”

ก่อนนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

https://www.thairath.co.th/news/crime/2770784

- Advertisment -

นิยมมากที่สุด