ทองไทยพุ่งติดจรวดใกล้แตะ 40,000 บาท

ราคาทองยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคาขายปลีกในประเทศปรับขึ้นไปแตะที่ระดับบาททองคำละ 40,000 ได้เร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีแรงซื้อจากธนาคารกลางหลายประเทศ หลังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้

“ราคาปรับขึ้นเร็วและแรงมาก น่าจะแตะระดับ 4 หมื่นบาทได้เร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นช่วงปลายปี ถ้าเมื่อเช้าบาทไม่แข็งค่า ราคาทองจะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ (บาททองคำละ 350)” นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าว

ราคาขายปลีกทอง (96.5%) ในประเทศวันนี้ ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก โดยเปิดตลาดพุ่งขึ้นบาททองคำละ 350 หลังจากนั้นมีการปรับราคาขึ้นอีก 2 ครั้งๆ ละ 50 บาท ส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณขายออกขึ้นไปแตะระดับสูงสูดใหม่ที่บาททองคำละ 39,500 ก่อนที่จะปรับลดลงมาบาททองคำละ 50

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.27 น.สมาคมค้าทองคำ แจ้งว่า ราคาทองแท่ง (96.5) รับซื้อเข้าบาททองคำละ 38,850 ขายออกบาททองคำละ 38,950 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 38,157.72 ขายออกบาททองคำละ 39,450

ก่อนหน้านี้ได้คาดการณ์แนวต้านไว้ที่ 2,260 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันปรับขึ้นมาแตะที่ระดับ 2,257 ดอลลาร์แล้ว คาดการณ์แนวต้านในระยะต่อไปไว้ที่ 2,275 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาขายปลีกในประเทศจะปรับเพิ่มขึ้นไปที่ระดับใด เพราะมาจากหลายปัจจัย เช่น อัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายทองคำในประเทศเปลี่ยนไปจากในอดีต จากเดิมในจังหวะที่ราคาปรับขึ้นจะมีคนนำทองออกมาขาย แต่วันนี้เปลี่ยนเป็นคนมาซื้อทองเพิ่มขึ้น เพราะมองว่าเป็นสินทรัพย์มั่นคง และราคามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เฉพาะเดือน มี.ค.ราคาทองปรับขึ้นมาบาททองคำละ 4,050 หรือมากกว่า 10%

ส่วนกรณีเกิดปัญหาปริมาณทองไม่เพียงพอที่จะส่งมอบให้ผู้ซื้อในอดีตนั้นยังไม่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยสัดส่วนการซื้อทองคำในประเทศนั้นกว่า 90% เป็นทองแท่ง เนื่องจากไม่มีต้นทุนเรื่องค่ากำเหน็จเหมือนการซื้อทองรูปพรรณ

“คนมาซื้อทองมากขึ้น พฤติกรรมไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะมองในทิศทางเดียวกันว่าราคาจะขยับขึ้นอีก” นายจิตติ กล่าว

*จับตาตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ หนุนราคาทองไปต่อ
นายจรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายแนะนำการลงทุน บริษัท คลาสสิก ออสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่กำลังจะประกาศออกมาจะส่งผลในเชิงบวกต่อราคาทอง ทั้งตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ขณะที่ราคาทองในประเทศมีความผันผวนมากขึ้นจากที่เปลี่ยนแปลงวันละ 150 บาทในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.มาเป็นวันละ 250 บาทในเดือน มี.ค. โดยประเมินแนวต้านราคาทองในตลาดโลกไว้ที่ 2,260-2,280 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศประเมินแนวต้านไว้ที่บาททองคำละ 39,250

“เมื่อมีความเสี่ยงสูงต้องลดการเทรดให้น้อยลง ทิศทางปรับขึ้นอาจจะเร่งกว่าคาด แต่หากย่อตัวลงมาแตะ 38,450 จะส่งสัญญาณที่ไม่ดี” นายจรณเวท กล่าว