36 C
Bangkok
Monday, April 29, 2024
หน้าแรกSport"ไลอ้อน" ดาวเด่น "ไทยไฟต์" ฉายา "เดอะ ร็อค" เมืองไทย ชีวิตจากศูนย์ ชกมวยเลี้ยงลูก (มีคลิป)

"ไลอ้อน" ดาวเด่น "ไทยไฟต์" ฉายา "เดอะ ร็อค" เมืองไทย ชีวิตจากศูนย์ ชกมวยเลี้ยงลูก (มีคลิป)


ไลอ้อน ซ้อมมวยไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย
กลายเป็นหนึ่งในนักชกที่น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับ “ไลอ้อน ว.ไพลิน” เจ้าของฉายาที่ผู้ใหญ่ในวงการตั้งให้ว่า “เดอะ ฮัลค์” เดินหน้าทำสถิติเก็บชัย 6 ไฟต์รวด บนเวที “ไทยไฟต์” ที่สำคัญทั้ง 6 ไฟต์ เป็นการเอาชนะน็อกคู่แข่งทั้งหมด

สมัยก่อนไม่มีใครแทบรู้จัก “ไลอ้อน” มาก่อน เพราะเขาถือเป็นนักมวยโนเนมคนหนึ่งที่ได้ชกแค่ตามเวทีบ้านนอก ขึ้นสังเวียนระดับภูธรแถบภาคอีสานมานานหลายปีแต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย

ชกมวยหากินเลี้ยงชีพไปสักพักก็ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลาถึง 2 ปีเต็ม แต่ก็เปรียบเสมือนได้เจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ด้วยสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งจากการฝึกทหาร บวกกับแม่ไม้มวยไทยที่ฝึกฝนมาตลอดตั้งแต่เด็ก เมื่อโอกาสครั้งสำคัญเข้ามาในชีวิต ก็ทำให้ “ไลอ้อน” ได้ลืมตาอ้าปากเสียที

เมื่อหลุดจากการเป็นทหารเกณฑ์เมื่อปีที่ผ่านมาเจ้าตัวต้องดิ้นรนทำอะไรบางอย่างเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว บวกกับการที่เจ้าตัวเพิ่งจะมีลูกเล็กที่ต้องเลี้ยง เมื่อปรึกษากับภรรยาก็ตกลงว่าจะกลับมาชกมวยอย่างจริงจังอีกครั้ง จึงฟิตซ้อมร่างกายให้แกร่งดุจหินผา มีหุ่นที่กำยำคล้ายกับ “เดอะ ร็อค” นักมวยปล้ำชื่อดัง

โอกาสครั้งสำคัญก็เข้ามาถึงระหว่างที่ฝึกซ้อมมวยทุกวันแทบไม่หยุดพัก ก็มีรายการให้ขึ้นชกที่เกาะสมุย เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น เก็บชัยด้วยการเอาชนะน็อกคู่แข่งไปถึง 5 ไฟต์ และแพ้น็อกไป 1 ไฟต์ ก่อนลีลาจะไปเข้าตาผู้ใหญ่จาก “ไทยไฟต์” เรียกไปเซ็นสัญญาเข้าสังกัดในที่สุด

“สมัยก่อนตอนเด็กๆ ผมอยู่บ้านนอกท่ จ.อุบลราชธานี ผมไม่ค่อยสู้คนเลยครับ เป็นเด็กหลังห้องที่ค่อยกล้าสบตาใคร เลยมาปรึกษากับคุณพ่อว่าอยากจะเป็นมวย อยากจะซ้อมมวย พ่อเลยไปฝากซ้อมกับนายตำรวจที่รู้จักคนหนึ่ง เขาก็เทรนให้ดิบดีจนได้ต่อยครั้งแรกที่บ้านเกิด ช่วง 8-9 ขวบ ก็ชนะมาเรื่อยๆ ในตอนนั้น” ไลอ้อน กล่าวถึงชีวิตวัยเด็ก

“ต่อยระดับภูธรอยู่ถึงอายุราว 15-16 ช่วงนั้นผมโดนหนักมาก จมูกแตก ขาหัก แขนหักบ้าง ต้องหยุดพักไปนานจนอายุ 18 ปี ก็ได้มีโอกาสมาอยู่กับค่ายมวยแห่งหนึ่งที่มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ตอนนั้นเขายื่นข้อเสนอให้ผมลองไปเป็นเทรนเนอร์ที่จีนดู”

“ผมก็ตัดสินใจไปเป็นเทรนเนอร์ที่จีนอยู่ประมาณ 2 เกือบ 3 ปี กลับมาตอนอายุ 21 ปี โชคชะตาทำให้เราจับได้ใบแดง ต้องเข้าไปเป็นทหารอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นโควิด-19 ระบาดพอดี ทำให้เราแทบไม่ได้ต่อยมวยเลยในช่วงนั้น”

ช่วงตอนออกจากการเป็นทหาร ไลอ้อน เล่าให้ฟังว่าชีวิตของเขาค่อนข้างเป๋ไปประมาณหนึ่ง เพราะช่วงนั้นมีแฟน แล้วก็มีลูกด้วยกัน ทำให้เขาต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว สุดท้ายจึงกลับมาทำในสิ่งที่เขารักอีกครั้งนั่นคือการชกมวย

“หลังจากปลดจากการเป็นทหารตอนนั้นผมก็มีแฟน มีลูกด้วยกัน เราไม่รู้เลยว่าเราจะทำอะไร แฟนผมเลยบอกว่าให้ทำในสิ่งที่ถนัด ซึ่งมันก็คือการชกมวย และการออกกำลังกาย ผมก็ลองหาค่ายมวยดูจากเฟซบุ๊ก ทักไปหลายที่ บางที่เขาก็ตอบ บางที่เขาก็ไม่ตอบ สุดท้ายก็มีค่ายหนึ่งเขามาเห็นผม นัดคุยกัน ก็เลยลองเข้ามาที่ค่ายแฟมิลีมวยไทย ที่อยู่ ณ ปัจจุบัน”

“ผมซ้อมอยู่ที่นี่ได้แค่ 10 วัน จากที่ไม่ได้ต่อยเลยมา 2-3 ปี ก็มีรายการเข้ามาทันทีที่เกาะสมุย ไปถึงเจอคู่ต่อสู้น้ำหนักเยอะกว่าผม 10 กิโล ถึงเวลานั้นเราไปแล้วจะไม่ต่อยก็ไม่ได้ คิดล่วงหน้าไว้แล้วว่ายังไงเราก็แพ้เพราะน้ำหนักต่างกันเยอะมาก แต่สุดท้ายกลายเป็นเราชนะน็อกเขายกที่ 3 เป็นการต่อยมวยไทย 5 ยก ตอนนั้นเราก็ชนะน็อกคู่แข่งเป็นว่าเล่นเลย”

หลังเดินทางไปชกที่เกาะสมุย ฟอร์มของเขาก็ไปเตะตาผู้ใหญ่ของไทยไฟต์ ชักชวนให้ไปต่อยที่รายการสุดท้าย “ไลอ้อน” ก็ได้เซ็นสัญญาขึ้นชกในรายการนี้สมดั่งใจหวัง

“ผู้ใหญ่จากไทยไฟต์เรียกให้ผมไปชกในรายการของเขาจากการเห็นฟอร์มของผมที่สมุย จำได้เลยว่าครั้งแรกในไทยไฟต์พบกับนักชกจากลาว เราประเดิมชนะน็อกคู่แข่งตั้งแต่ไฟต์แรกเลย หลังจากนั้นเราก็ชนะน็อกในไทยไฟต์มา 6 ไฟต์รวดจนถึงตอนนี้”

“เอาง่ายๆ ถ้ารวมรายการที่สมุยด้วย ในรอบปี 2023 ที่ผ่านมา ผมต่อยไป 12 ไฟต์ ชนะน็อกคู่แข่งไป 11 ไฟต์ และก็มีแพ้น็อกไปแค่ 1 ไฟต์ ที่สมุย ซึ่งโปรแกรมต่อไปผมก็กำลังจะมีไฟต์วันที่ 24 มีนาคม ที่ปลวกแดง” ไลอ้อน กล่าวถึงสถิติการชกที่ผ่านมา

การเลี้ยงลูกไปด้วย ต่อยมวยไปด้วย ถือเป็นความท้าทายอันใหญ่หลวงของ ไลอ้อน ว.ไพลิน เพราะจะต้องแบ่งเวลาการฝึกซ้อม และการเลี้ยงดูลูกเล็กให้ลงตัวที่สุด เพื่อแบ่งเบาภาระของภรรยา แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นอุปสรรค์แต่อย่างใด

“มันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากครับ ช่วงแรกอยู่คอนโดกับแฟน ซึ่งตัวของแฟนก็มีค่าใช้จ่ายที่เยอะมากๆ ในแต่ละเดือน ตอนนั้นเขาทำงานคนเดียว แล้วเรายังไม่มีรายได้อะไร ซึ่งก็อย่างที่บอกแฟนเขาแนะนำให้ผมทำในสิ่งที่ชอบ สุดท้ายก็กลับมาชกมวย”

“ช่วงแรกที่กลับมาซ้อมแบบจริงจัง หนักหนาสาหัสพอสมควร ตอนนั้นลูกผมเพิ่ง 2 เดือน ต้องป้อนนมทุก 2 ชม. คุยกับแฟนว่าจะสลับกันป้อน ผมเป็นนักมวยซ้อมหนักมาก็เหนื่อยใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ก็ต้องแบ่งเวลามาเลี้ยงลูกยันดึก บางทีลูกตื่นตีสามตีสี่ ผมก็ยอมใจตัวเองอยู่นะว่าอดทนมาได้ยังไง จนตอนนี้ลูกผมขวบกว่าๆ แล้ว ผมก็ผ่านจุดนั้นมาได้”

“ต้องขอบคุณที่ผมได้แฟนดี ช่วยกันซัพพอร์ตทุกสิ่งทุกอย่าง ช่วยเหลือกันตลอด จนมาถึงตอนนี้ผมก็ยังรักกันดี ตอนนี้ผมก็ยังต้องซ้อมสลับกับการช่วยภรรยาเลี้ยงลูกเหมือนเดิม”

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างกับ “เดอะ ร็อค” มาพร้อมกับสไตล์การชกที่ดุดัน บ้าระห่ำสุดๆ ไม่เคยเกรงกลัวแม้ต้องเจอกับฝรั่งที่ตัวใหญ่กว่า ทำให้แฟนหมัดมวยรายการไทยไฟต์ ชื่นชอบเขาเป็นอย่างมาก และกำลังจะขึ้นแท่นนักชกระดับตำนานของรายการนี้เลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามแม้แฟนมวยหลายคนอาจรู้จักเขาเพราะรูปร่างที่คล้ายคลึงกับ “เดอะ ร็อค” นักมวยปล้ำ และนักแสดงชื่อดังระดับฮอลลีวูด แต่เจ้าตัวเผยว่าฉายาจริงๆที่ผู้ใหญ่ในไทยไฟต์ตั้งให้ คือ “เดอะ ฮัลค์” เพราะดูเป็นคนที่บ้าพลังเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังจากค่ายมาร์เวล

“ผมก็อยากจะฝากแฟนมวยทุกคนส่งกำลังใจให้ ไลอ้อน ว.ไพลิน คนนี้ จากนักมวยโนเนมคนหนึ่งที่กำลังสร้างชื่อเสียงของตัวเองขึ้นมา ผมจะหาทุกสิ่งทุกอย่างมาทำให้ตัวเองครบเครื่องมากที่สุด”

“ขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนจากผู้ติดตามหลักร้อย สู้ผู้ติดตามหลักแสน ผมรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก ภายในปีเดียวที่ผมกลับมาต่อย มีผู้ติดตามผมมากขึ้นถึง 2 แสนคน ผมจะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ” ไลอ้อน ว.ไพลิน กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับแฟนหมัดมวยที่เริ่มสนใจในสไตล์การชกของ ไลอ้อน ว.ไพลิน หนุ่มกำปั้นจากจ.อุบลราชธานี ก็ติดตามเจ้าตัวกันได้ผ่านสังเวียน “ไทยไฟต์” โดยในวันที่ 24 มีนาคมนี้ เจ้าตัวมีโปรแกรมขึ้นชกที่ ณ ลายซีเคพลาซ่า อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ถ่ายทอดสดทางช่อง 8 เวลา 18.00 ถึง 21.40 น.

เดินหน้าสร้างตำนานในไทยไฟต์

ไลอ้อน ว.ไพลิน กับสไตล์บู๊ บ้าระห่ำ

ภรรยาที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี

สมัยชกมวยบนเวทีระดับภูธร

 สมัยเข้ารับการเกณฑ์ทหาร 2 ปีเต็ม

Source: https://mgronline.com/sport/detail/9670000023710

- Advertisment -

นิยมมากที่สุด